แกงเห็ดเผาะ อาหารอีกอย่างทางภาคอีสานบ้านเรา ซึ่งจะหากินได้แบบสดๆได้เพียงปีละครั้ง ค่ะ คือช่วงหน้าฝน สำหรับท่านที่ไม่เคยกินอาจจะดูแปลก การแกงเห็ดเผาะนั้น มีหลากหลาย แต่ผู้เขียนขอนำเสนอการแกง กึ่งภาคกลางนิดๆ แกงคั่วเห็ดเผาะ อย่างแรกก็ต้องพระเอกของเรา ก็เจ้าเห็ดเผาะ หน้าตาออกจะไม่น่ากินสักหน่อย แต่ความกรอบ และมันของเค้าใช่ได้เลยที่เดียวค่ะเ
เห็ดเผาะ เป็นเห็นที่ขึ้นเองตามธรรมชาติ ไม่แปลกใจที่จะมีแค่ปีละครั้ง แต่ถ้าหากอยากเก็บไว้กินนอกฤดู เราก็มักจะเอาไปต้มให้สุก บางบ้านก็แช่น้ำเกลือ แต่สำหรับผู้เขียนแนะนำ นะค่ะ ต้มแล้วเอาน้ำออกแช่ช่องฟรีซ เลยค่ะ จะอยู่ได้นานและรสชาติจะไม่ค่อยเปลี่ยนเท่าไหรค่ะ หากคุณได้เห็ดเผาะตามท้องตลาดที่เค้าขายกัน บ้างร้านก็อาจล้างดินที่เกาะเห็ดมาบางร้านก็อาจจะไม่ล้างแล้วแต่ร้าน ไม่ต้องตกใจนะค่ะ เพราะโดนธรรมชาติของเค้าจะขึ้นในดินเวลาไปเก็บก็จะต้องไปขุดจากดินแต่เค้าอยู่ไม่ลึกมากค่ะ พอให้เรามองเห็นและเก็บได้ค่ะ เราได้เห็นมาก็ทำการล้างดินที่เกาะออกให้สะอาดสัก2-3 น้ำก็ได้ค่ะ จากนั้นเราก็ทำการผ่าซีกออกเป็น 2 ส่วนเพื่อสะดวกแกการกินนะค่ะ ข้างในเค้า ถ้าเป็นลูกอ่อน เนื้อข้างในจะคลายๆไข่ตุ๋น เต็มลูก ถ้าแก่มานิดก็จะออกเป็นสีดำ ไม่เต็มลูกสักเท่าไหร่ ส่วนเปลือกที่คุมของเห็ดเผาะนั้น เค้าจะมีความกรอบยิ่งอ่อนยิ่งกรอบ ถ้าแก่มากๆ ก็จะเหนียวมากค่ะเวลาซื้อส่วนใหญ่แม่ค้าเค้าจะไม่ให้เราเลือกสังเกตง่ายไค่ะ ลูกสีดำเข้มจะแกส่วนลูกสีขาวออกน้ำตาลยังอ่อนอยู่ค่ะ
เรามาดูพระเอกต่อไปค่ะ ก็ มีชะอม สำหรับท่านที่ไม่ค่อยชอบกลิ่นชะอมสักเท่าไหรไม่ต้องใส่ก็ได้ค่ะ และตามด้วใบชะพลู กะทิสด และเครื่องแกงเผ็ด หากใครอยากจะใส่เนื้อสัตย์ ผู้เขียนแนะนำ หมูย่าง หมูสับหรือ เนื้อไก่สด จะดีมากค่ะ อร่อยไปอีกแบบ และที่ขาดไม่ได้ก็พริกแกงเผ็ด จะตำเองหรือหาซื้อได้ตามท้องตลาดทั่วไปก็ได้ค่ะ แต่ถ้าหาซื้อผู้เขียนแนะนำให้ซื้อพริกแกงเผ็ดแบบหยาบนะค่ะ
แต่ถ้าหากอยากจะทำเองก็ได้นะค่ะ เราชอบอะไรไม่อยากใส่อะไรก็ตามใจชอบเราได้ค่ะ เครื่องแกงที่จะทำพริกแกงเผ็ด ห็มี พริกแห้ง ผู้เขียนแนะนำให้ใส่พริกสดผสมไปนิดจะได้กลิ่นหอมของพริก แต่ไม่ต้องมากสำหรับผู้ที่ไม่ทานเผ็ดนะค่ะ มีกะเทียม หัวหอม ตะไคร้ ข่าอ่อน ผิวมะกูด และบางท่านจะใส่ก็ได้ไม่ใส่ก็ได้ก็กะชายค่ะ ตามด้วยกะปิ และเกลือนิดหนึ่งค่ะ เครื่องแกงทุกอย่างล้วนเป็นสมุนไพรทั้งนั้นค่ะ
เมื่อเราได้ทุกอย่างมาก็เอากะทิมาเคี่ยวพอให้แตกมัน แล้วจึงเอาพริกแกงลงไปเคี่ยวต่อ กะที่ตอนเคี่ยวไม่ต้องเยอะนะค่ะ เอาพอประมาณเพราะเราเติมได้ค่ะ เมื่อเคี่ยวพริกแกงกับกะทิ พอให้มีน้ำมันลอบแล้วเราก็เติมกะทิอีกสักหน่อยเราจะแกงแบบน้ำคลุกคลิกค่ะ พอกะทิเดือดเราก็ใส่เห็ด แต่ขั้นตอนนี้หากใครมราจะใส่เนื้อสัตย์ก็ใส่ก่อนเห็ดนะค่ะ ให้เนื้อสัตย์พอสุกแล้วใส่เห็ดค่ะ ทิ้งไว้สัก 5-10 นาที ปรุงรสตามใจชอบค่ะ น้ำตาล น้ำปลา ส่วนใหญ่จะหวานกะทิอยู่แล้ว จากนั้นก็ตามด้วยชะอมทิ้งไว่สัก 2 นาที ก่อนยกลง ก็ใส่ใบชะพลูก็ยกลงได้ค่ะ เสร็จแล้วแกงเห็ดเผาะ ได้ข้าวสวยร้อนๆนะค่ะ อร่อยอย่าบอกใครนะค่ะ
เห็ดเผาะ |
เรามาดูพระเอกต่อไปค่ะ ก็ มีชะอม สำหรับท่านที่ไม่ค่อยชอบกลิ่นชะอมสักเท่าไหรไม่ต้องใส่ก็ได้ค่ะ และตามด้วใบชะพลู กะทิสด และเครื่องแกงเผ็ด หากใครอยากจะใส่เนื้อสัตย์ ผู้เขียนแนะนำ หมูย่าง หมูสับหรือ เนื้อไก่สด จะดีมากค่ะ อร่อยไปอีกแบบ และที่ขาดไม่ได้ก็พริกแกงเผ็ด จะตำเองหรือหาซื้อได้ตามท้องตลาดทั่วไปก็ได้ค่ะ แต่ถ้าหาซื้อผู้เขียนแนะนำให้ซื้อพริกแกงเผ็ดแบบหยาบนะค่ะ
แต่ถ้าหากอยากจะทำเองก็ได้นะค่ะ เราชอบอะไรไม่อยากใส่อะไรก็ตามใจชอบเราได้ค่ะ เครื่องแกงที่จะทำพริกแกงเผ็ด ห็มี พริกแห้ง ผู้เขียนแนะนำให้ใส่พริกสดผสมไปนิดจะได้กลิ่นหอมของพริก แต่ไม่ต้องมากสำหรับผู้ที่ไม่ทานเผ็ดนะค่ะ มีกะเทียม หัวหอม ตะไคร้ ข่าอ่อน ผิวมะกูด และบางท่านจะใส่ก็ได้ไม่ใส่ก็ได้ก็กะชายค่ะ ตามด้วยกะปิ และเกลือนิดหนึ่งค่ะ เครื่องแกงทุกอย่างล้วนเป็นสมุนไพรทั้งนั้นค่ะ
เมื่อเราได้ทุกอย่างมาก็เอากะทิมาเคี่ยวพอให้แตกมัน แล้วจึงเอาพริกแกงลงไปเคี่ยวต่อ กะที่ตอนเคี่ยวไม่ต้องเยอะนะค่ะ เอาพอประมาณเพราะเราเติมได้ค่ะ เมื่อเคี่ยวพริกแกงกับกะทิ พอให้มีน้ำมันลอบแล้วเราก็เติมกะทิอีกสักหน่อยเราจะแกงแบบน้ำคลุกคลิกค่ะ พอกะทิเดือดเราก็ใส่เห็ด แต่ขั้นตอนนี้หากใครมราจะใส่เนื้อสัตย์ก็ใส่ก่อนเห็ดนะค่ะ ให้เนื้อสัตย์พอสุกแล้วใส่เห็ดค่ะ ทิ้งไว้สัก 5-10 นาที ปรุงรสตามใจชอบค่ะ น้ำตาล น้ำปลา ส่วนใหญ่จะหวานกะทิอยู่แล้ว จากนั้นก็ตามด้วยชะอมทิ้งไว่สัก 2 นาที ก่อนยกลง ก็ใส่ใบชะพลูก็ยกลงได้ค่ะ เสร็จแล้วแกงเห็ดเผาะ ได้ข้าวสวยร้อนๆนะค่ะ อร่อยอย่าบอกใครนะค่ะ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น